ดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 รอคิวเข้า ครม. “จุลพันธ์” ยืนยันตามไทม์ไลน์เดิมในไตรมาส 2

ข่าวด่วนวันนี้ (ข่าวทั่วไทย)

ความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ยังคงเดินหน้าตามแผนเดิม โดยล่าสุดนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่มหาวิทยาลัยนครพนม เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ว่าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 3 ผ่านการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้กับประชาชนที่มีอายุระหว่าง 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคนนั้น ขณะนี้กระทรวงการคลังได้เสนอเรื่องมายังคณะรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว และกำลังรอนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม

นายจุลพันธ์ยืนยันว่าการดำเนินโครงการทั้งหมดยังคงเป็นไปตามไทม์ไลน์เดิมที่กำหนดไว้คือ ไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน โดยยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ทั้งนี้ ที่การดำเนินการเกิดความล่าช้าไปบ้างเนื่องจากจำเป็นต้องรอสอบถามความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประจวบเหมาะกับช่วงวันหยุดยาวหลายวันที่ผ่านมา

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าโครงการนี้จะถูกนำเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าหรือไม่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า โครงการอาจจะเข้าตามคิวที่จัดไว้ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ด้วยตนเอง เนื่องจากไม่มีอำนาจในการบรรจุวาระการประชุม

นอกจากนี้ นายจุลพันธ์ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มนักวิชาการได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการทำงานของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ชุดปัจจุบัน ในประเด็นเกี่ยวกับการพิจารณาตัดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วงเงิน 35,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่มีไว้สำหรับใช้หนี้เงินกู้แต่กลับถูกนำไปใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงว่า กระบวนการในการพิจารณางบประมาณได้ผ่านพ้นไปแล้ว และยืนยันว่าการดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ โดยได้มีการพิจารณาตั้งแต่ระดับอธิบดี ระดับคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานงบประมาณ กระทรวงการคลัง รวมไปถึงหน่วยงานอื่นๆ อีกมากมาย

นายจุลพันธ์อธิบายเพิ่มเติมว่า ผู้ร้องอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนว่ามีการปรับลดงบประมาณในส่วนที่เป็นเงินสำหรับการชำระหนี้และดอกเบี้ย แต่ความจริงแล้วงบประมาณทั้งสองหมวดนี้มีการแยกกันอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ทุกคนมีสิทธิที่จะยื่นเรื่องไปสอบถามและตรวจสอบได้ โดยนายจุลพันธ์กล่าวว่า ขอให้รอดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในเรื่องนี้อย่างไร แต่ในฐานะที่ตนเองเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 นั้น มีความมั่นใจว่าการดำเนินการทั้งหมดถูกต้องและครบถ้วนทุกประการ

โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 เป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลมุ่งหวังจะช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเยาวชน โดยเฉพาะช่วงอายุ 16-20 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังเข้าสู่วัยทำงานและมีความต้องการในการใช้จ่ายเพื่อการศึกษาและการดำรงชีวิต การแจกเงิน 10,000 บาทต่อคนนี้จะช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและส่งเสริมการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจ

ความสำเร็จของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในเฟสก่อนหน้านี้ ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการกระจายความช่วยเหลือทางการเงินไปยังประชาชนได้อย่างรวดเร็วและตรงกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมให้ประชาชนคุ้นเคยกับการใช้ระบบการเงินดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล

อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ยังคงต้องผ่านการพิจารณาอย่างละเอียดจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมของงบประมาณ แหล่งที่มาของเงิน รวมถึงผลกระทบต่อฐานะการคลังของประเทศในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจหลายด้าน

ประชาชนกลุ่มเป้าหมายทั้ง 2.7 ล้านคน จึงควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อรับทราบความคืบหน้าของโครงการและเตรียมความพร้อมสำหรับการลงทะเบียนรับสิทธิ์ หากโครงการได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าจะมีการดำเนินการในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน 2568 ตามที่นายจุลพันธ์ได้ให้ข้อมูลไว้

ทั้งนี้ การดำเนินโครงการดังกล่าวยังคงต้องคำนึงถึงความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อการใช้งบประมาณแผ่นดิน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการติดตามและประเมินผลอย่างเป็นระบบ เพื่อให้มั่นใจว่าเงินช่วยเหลือจะถูกนำไปใช้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ